
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามที่มักเกิดขึ้นตอนสึกของร่องดอกยาง หรือครบกำหนดวาระที่เจ้าของรถยนต์จะต้องเปลี่ยนทุกๆ 3 – 5 ปี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เกาะถนนดียิ่งขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม จะเห็นว่าแต่ละครั้งที่เปลี่ยนนั้นอยู่ได้นานเลยใช่ไหมละครับ ดังนั้นเมื่อเราซื้อยางรถยนต์แต่ละครั้งก็ต้องเลือกยี่ห้อที่เหมาะกับเรามากที่สุดซึ่งอาจจะเป็นยี่ห้ออื่นที่ไม่ได้อยู่ในบทความนี้ก็ได้นะ
อ่านเพิ่มเติม : วิธีพ่วงแบตรถยนต์
อายุการใช้งานของยางรถยนต์
ยางรถยนต์ แต่ละยี่ห้อส่วนใหญ่แล้วเขาจะรับประกันอยู่ที่ 4 – 6 ปี หมายถึงว่าอายุของยางนั้นมีมากกว่าที่เราใช้งานจริง ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเลือกเปลี่ยนยางตามการใช้งานของแต่ละคนที่เจอพื้นผิวบนท้องถนนทุกวัน เช่น คนที่ใช้งานรถยนต์หนักเจอพื้นผิวที่ทำให้ดอกยางสึกเร็วก็อาจจะเปลี่ยนยางเร็วกว่าคนอื่น (ความลึกของดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.5 มม. เนื่องจากความลึกระดับนี้จะทำให้รีดน้ำได้ไม่ดีประมาณ ครึ่งเหรียญบาท) แต่แท้จริงยางรถยนต์นั้นควรเปลี่ยนทุกๆ 3 – 5 ปี หรือ 50,000 กม. จะปลอดภัยที่สุด
ลักษณะยางรถยนต์ที่ควรเปลี่ยน
ดอกยางรถยนต์สึก
ดอกยางรถยนต์ควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 1.5 มม. โดยอาจจะใช้เครื่องวัดดอกยางหรือใช้เหรียญบาทในการตรวจสอบโดยความลึกจะต้องมากกว่าครึ่งของเหรียญบาท
ยางบวม

เมื่อเกิดอาการยางบวมควรรีบเปลี่ยนทันที โดยสามารถสังเกตุได้จากแก้มหรือหน้ายาง อีกข้อหนึ่งเราสามารถสัมผัสได้จากการขับเมื่อขับแล้วตัวรถจะสะท้านสั่นทั้งคัน หากฝืนขับต่อไปอาจจะทำให้ยางระเบิดได้
ยางฉีกขาด

เมื่อเราเห็นว่ายางฉีกขาดควรรีบเปลี่ยนทันที
แตกลายงา

ยางบางรุ่นมีความแข็งแรงทนทานสูง หน้ายางดี ดอกยางสึกน้อย แต่เมื่อใช้นานๆก็อาจจะพบรอยแตกลายงา
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี
MICHELIN รุ่น PILOT SPORT 3

ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,550 บาท ใช้เทคโนโลยีจากสนามแข่งระดับโลก Le Mans 24 hours ยึดเกาะถนนแน่นบนทางโค้งมน โดยเฉพาะถนนเปียก ใช้เทคโนโลยี Anti Surf System ที่เพิ่มมุมโค้งบริเวณไหล่ยางทำให้ระบายน้ำโดยไม่ลดหน้าสัมผัส เพิ่มความปลอดภัย การควบคุมแม่นยำสูงให้ความสนุกทุกการขับขี่
Goodyear รุ่น Eagle F-1 Directional 5

Googdyear เค้าบอกเอาไว้ว่ายางรุ่นนี้เน้นที่ความสปอร์ตเร้าใจสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยการสืบสานตำนานยางระดับไฮเพอร์ฟอร์มานซ์ในตระกูล Eagle F-1 และ Directional 5 ยังคงมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพที่สามารถตอบสนองความแรงเร้าใจสำหรับคนรุ่นใหม่ รวมถึงความสวยงามของดอกยาง การควบคุมบนท้องถนนเปียกหรือแห้งสามารถทำได้อย่างมั่นใจด้วยเทคโนโลยี SportGrip
Bridgestone รุ่น ADRENALIN RE003

Bridgestone รุ่นนี้คล้ายๆกับตระกูล Eagle F-1 ที่มีความสปอร์ตเร้าใจแต่ยังคงความสามารถในการควบคุมบนถนนแห้งและเปียกได้อย่างแม่นยำด้วยการออกแบบให้แก้มยางและดอกยางแบบไม่สมมาตร ดอกยางด้านนอกและด้านในไม่เท่ากัน ช่วยให้สมรรถนะในการเข้าโค้งดียิ่งขึ้นทำให้การขับขี่บนถนนทำได้อย่างเต็มอารมณ์สปอร์ต
Continental รุ่น ContiMaxContact™ MC5
เป็นยางที่ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีของ เยอรมัน โดยการใช้สารประกอบซิลิกาใหม่ของ Continental เพื่อช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการยึดเกาะ และควบคุมทั้งบนถนนที่แห้งและเปียก ในประเทศไทยหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักมากนักแต่ว่าในโซนยุโรปมียอดขายดีเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียว อีกทั้งทางฝั่ง Continental ยังบอกอีกว่ายางของเขานั้น เงียบมาก เนื่องจากมีปุ่มตัดเสียงที่กระจายอยู่ทั่วร่องดอกยางหลัก ช่วยกระจายเสียงลมได้ดีเยี่ยม ราคาอยู่ที 2,990 – 5,000
Dunlop รุ่น SP SPORT LM704
ถ้าพูดถึง Dunlop หลายคนอาจจะคิดว่าก็แค่ยางระดับกลาง แต่แท้จริงแล้วคนที่ใช้ Dunlop ไม่ว่าจะเป็นโซนยุโรปหรืออเมริกาต่างก็บอกว่าไม่ต่างจาก แบรนยางระดับต้นๆของประเทศไทยเลยทีเดียว ส่วนตัว SP SPORT LM704 เป็นยางที่อยู่ในกลุ่ม Sport และ Comfort มีการขับขี่ นุ่มนวล และ เกาะถนน ที่ยาง Sport ควรจะมี โดยใช้ยางชนิด High performance Radial
YOKOHAMA รุ่น ADVAN dB decibel
ต่อมาเป็นยางจากประเทศที่มี นวัตกรรมใหม่ ล้ำๆแปลกๆอยู่เสมออย่างประเทศ ญี่ปุ่น ที่คราวนี้เขาออกแบบยางที่มีความเงียบมากที่สุดในตระกูลออกมา ไม่พอยังคิดค้นพัฒนาสูตรผสมเนื้อยางพิเศษแบบใหม่ ADVAN dB Nano-Power Rubber และส่วนผสมของ Micro Silica(ไมโครซิลิกา) ทำให้เนื้อยางมีความยืดหยุ่น เพิ่มพื้นผิวหน้าสัมผัสของยางกับพื้นถนน
Deestone รุ่น Carreras R702
สุดท้ายก็คือยางรถยนต์จากไทย ที่มีราคาไม่แพงถูกมากแต่มีประสิทธิภาพทำให้มั่นใจในทุกการขับขี่ทั้งทางตรง ทางโค้ง ถนนแห้งและถนนเปียก ยางเป็นแบบ Sport ดอกลายสวยงาม หน้าดอกยางหมดช้า สามารถควบคุมได้ดีบนถนนเปียกคล้ายกับมีที่ปัดน้ำฝน บทถนนแห้งก็ยึดเกาะได้ดีเช่นกัน
ยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ที่บอกมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นยังมี ยางรถยนต์อีกหลายยี่ห้อที่อาจจะเหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่เรา แต่ถ้ายังไม่มีตัวเลือกในดวงใจก็ขอให้นำยางแต่ละยี่ห้อนี้มาศึกษาอีกทีนะครับว่ายางรถยนต์รุ่นไหนที่เราชอบมากที่สุด
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : tyreplus, auto.sanook, checkraka, goodyear